เซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจในเครือทั้งในไทย-เวียดนาม เร่งให้ความช่วยเหลือ ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย
กรุงเทพฯ 19 กันยายน 2567 – บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRCผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจในเครือ ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยรวมมากกว่า 20,000 ครัวเรือน ใน 10 จังหวัดในไทยและ 13 จังหวัดในเวียดนาม ด้วยการบริจาคน้ำดื่ม อาหาร และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ มูลค่ารวมทั้งหมดกว่า4,000,000 บาท พร้อมส่งทีมพนักงานอาสาสมัครลงพื้นที่ เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยที่เกิดขึ้นทั้งในภาคเหนือของประเทศไทยและเวียดนามในขณะนี้ พร้อมร่วมมือกับเครือข่ายภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีความใกล้ชิดกับชุมชน เพื่อเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
โดยกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่ร่วมสนับสนุนความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัย ประกอบด้วย
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ร่วมสนับสนุนความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือในจังหวัดพิษณุโลก โดยมอบของใช้จำเป็น อาทิ ผ้าขนหนู จานชาม และกระติกน้ำ มูลค่า 93,011 บาท
- เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป สนับสนุนเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า และรองเท้า มูลค่า 541,060 บาท ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ
- ซูเปอร์สปอร์ต ได้จัดทีมพนักงานซูเปอร์สปอร์ตสาขาพิษณุโลกลงพื้นที่ส่งมอบน้ำดื่มจำนวน 100 แพค มูลค่า 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นเขตตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
- ท็อปส์ ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง นอกจากนี้ยังได้มอบถุงยังชีพพร้อมน้ำดื่มให้แก่กาชาดจังหวัดเชียงราย รวมมูลค่า 100,000 บาท อีกด้วย
- โก โฮลเซลล์ มอบน้ำดื่มสะอาด สินค้าอุปโภค-บริโภค เสื้อผ้า และของใช้จำเป็น มูลค่ารวมกว่า 40,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ทั้งในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และเมืองพัทยา
- ไทวัสดุ บริจาคน้ำดื่ม จำนวน 500 แพ็ค ถุงขยะ และสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ผู้ประสบภัยในจังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ และพิษณุโลก ผ่านโครงการ “ไทวัสดุ เคียงข้าง สร้างสุข” มูลค่ารวม 202,004 บาท รวมทั้งยังจัดส่งอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมระดมอาสาสมัครพนักงานจากไทวัสดุมาร่วมฟื้นฟูอาคารที่ได้รับความเสียหายในลำดับถัดไป
- ออฟฟิศเมท มอบสินค้าจำพวกไม้กวาดทางมะพร้าวและถุงมือ จำนวนรวมกว่า 4,000 ชิ้น ให้แก่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และจำนวนอีก 2,580 ชิ้นให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย รวมมูลค่าทั้งหมด 920,924 บาท เพื่อนำไปแจกจ่ายชาวเชียงรายและสุโขทัยสำหรับใช้ทำความสะอาดหลังน้ำลด
- โรบินสันไลฟ์สไตล์ เป็นตัวกลางในการตั้งจุดรับบริจาคของใช้อุปโภค-บริโภค และได้ร่วมมือกับทั้งภาครัฐในท้องถิ่น และภาคเอกชนตามสาขาต่าง ๆ ของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ อาทิ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อมอบอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของที่จำเป็น มูลค่าร่วม 100,000 บาท ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ
- ท็อปส์แคร์ สนับสนุนยาสำหรับใช้ภายนอก รวมถึงอุปกรณ์เวชภัณฑ์ มูลค่า 19,064 บาท ให้แก่ผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย พร้อมเป็นศูนย์กลางในการรับบริจาคเวชภัณฑ์และยารักษาโรคที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอีกด้วย
- เพ็ทแอนด์มี ร่วมส่งต่ออาหารสัตว์ เพื่อช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดเชียงราย มูลค่ารวม 14,390 บาท และสนับสนุนอาหารสัตว์เพิ่มเติมอีกมูลคา 300,000 บาทเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทางภาคเหนือ นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นศูนย์กลางส่งต่ออาหารสัตว์ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถซื้ออาหารสัตว์และแสดงความจำนงในการบริจาคได้ที่ร้านเพ็ทแอนด์มี ทั่วประเทศ
- เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ได้ร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นของเวียดนาม ให้ความช่วยเหลือผู้คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยางิ นำโดยตัวแทนจากGO! Hypermarketและ Tops Market ที่ได้แจกจ่ายถุงยังชีพจำนวน 10,500 ชุด มูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท ให้กับพื้นที่ทางเหนือของเวียดนามที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ตลอดจนการลงพื้นที่ พร้อมจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนชาวเวียดนามที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ เซ็นทรัลรีเทลขอร่วมส่งกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและวาตภัย ในทุกพื้นที่ของประเทศไทยและเวียดนามให้ผ่านพ้นวิกฤติดังกล่าวไปได้โดยเร็วโดยพร้อมยืนหยัดเคียงข้างและให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนสอดคล้องกับหลักปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ“CRC Care” ของเซ็นทรัล รีเทลในมิติCare for the Community ที่พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตอกย้ำเจตนารมณ์ขององค์กรในการเป็น“Central to Life” หรือ ศูนย์กลางชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริง
