EMC กำไร 2 ไตรมาสติด เพิ่มขึ้น 149% ดันครึ่งปีโตสวนวิกฤติ กำ Backlog กว่า 1,260 ล้านบาท พร้อมรุกอัพฐานธุรกิจใหม่
บมจ.อีเอ็มซี
พลิกกำไรอีกระลอก ไตรมาส 2 เพิ่มกว่า 153% จากปีก่อน
ผลักดันครึ่งปีแรกกวาดกำไร 42 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 149% พร้อมเก็บรายได้ไปกว่า 467 ล้านบาท ชี้กลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนใหม่เห็นผล
วางนโยบายต่อเนื่องระยะยาว ส่วนครึ่งปีหลังตุน Backlog ทั้งภาคโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยกว่า
1,260 ล้านบาท มั่นใจการปรับแผนธุรกิจ
ลุยขยายธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม และเดินหน้าสร้าง New S Curve
เสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัท
นายชาลี
จังวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
หลังจากบริษัทปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารและกลยุทธ์ในการบริหารจัดการภายในองค์กร
ได้สร้างความเติบโตให้กับกลุ่มบริษัท เห็นได้จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567
บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้ 256.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน
91.32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55.14%
จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาสนี้มีจำนวน 15.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน
46.02 ล้านบาท หรือคิดเป็น 152.74 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ
30.13 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้รายได้ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตขึ้น
100% มีรายได้เพิ่ม 59.25 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากนโยบายการวางแผนการตลาดและแผนส่งเสริมการขายในด้านต่างๆ
ส่งผลให้มียอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตามลำดับ
สำหรับการเติบโตของรายได้และกำไรในไตรมาส
2 เป็นการเติบโตต่อเนื่องมาจากไตรมาสแรกที่มีรายได้ 209.78 ล้านบาท กำไร 26.34 ล้านบาท
ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการรอบครึ่งปีกลุ่มบริษัทมีรายได้ 464.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.29 ล้านบาท หรือ 54.77% จากช่วงเดียวกันของปี 2566
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 42.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 148.76%
จากงวดเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน
จากผลประกอบการที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นความสามารถของ
EMC ที่ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหาร
และกลยุทธ์ในการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ช่วยส่งเสริมให้สามารถสร้างผลกำไรและรายได้ที่ดี
โดยบริษัทพร้อมที่จะวางแนวทางการบริหารที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเติบโตให้กับกลุ่มบริษัททั้งปัจจุบันและอนาคต
โดยช่วงครึ่งหลังปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้าในธุรกิจการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ
อีกทั้ง เป็นตลาดสำคัญที่จะทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้
(Backlog) กว่า 1,260 ล้านบาท นอกจากนี้
บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ การก่อสร้างโรงงานของ
PTTOR อาคารห้างสรรพสินค้า อาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ มูลค่าโครงการรวมกว่า
1,900 ล้านบาท บริษัทฯ
มีความมั่นใจในศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการดำเนินโครงการก่อสร้างประเภทนี้
โดยมีประสบการณ์ในการรับงานประมูลอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีโอกาสได้รับงานมากกว่า60-70%
ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้
จะสามารถสร้างความคล่องตัวและความพร้อมในการลงทุนหรือร่วมทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ
ทั้งต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ และสร้างธุรกิจ New S Curve ใหม่
ที่บริษัทมุ่งเน้นการสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญในอนาคตต่อไป