วีซ่า เผยการใช้จ่ายผู้บริโภคในโอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 กระตุ้นเศรษฐกิจฝรั่งเศส

  • ยอดขายร้านค้ารายย่อยในกรุงปารีสเพิ่มขึ้น 26% ในช่วงสุดสัปดาห์แรกของการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024[1] เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ยอดการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรวีซ่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในหลายประเภทการใช้จ่าย อาทิ ร้านอาหาร โรงละคร และพิพิธภัณฑ์
  • ปริมาณการใช้จ่ายสูงสุดในบรรดาบัตรต่างประเทศมาจากผู้ถือบัตรวีซ่าของสหรัฐฯ ในขณะที่ผู้ถือบัตรวีซ่าจากญี่ปุ่นและบราซิลมีสัดส่วนการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 8สิงหาคม 2567 – วีซ่า พันธมิตรด้านเทคโนโลยีการชำระเงินอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก เกมส์ เผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์การใช้จ่ายของผู้บริโภคในระหว่างสุดสัปดาห์ช่วงเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024

โดยผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลกเผยว่าโอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 กระตุ้นการค้าในกรุงปารีสให้คึกคักยิ่งขึ้น และสร้างผลบวกให้กับเศรษฐกิจของฝรั่งเศสโดยรวม

  • ธุรกิจขนาดเล็ก และร้านค้ารายย่อยในกรุงปารีสมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 26% จากผู้ถือบัตรวีซ่าในช่วงสุดสัปดาห์แรกของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
  • ยอดการใช้จ่ายในกรุงปารีสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงละคร และพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นถึง 159% ธุรกิจเครื่องอุปโภคบริโภค (อาหารและร้านขายของชำ) เพิ่มขึ้น 42%  ร้านอาหารเพิ่มขึ้น 36% ร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น 21% และธุรกิจความบันเทิงต่างๆ เพิ่มขึ้น 18%
  • โดยชาวต่างชาติที่มีปริมาณการใช้จ่ายมากที่สุดมาจากผู้ถือบัตรวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา (29%) ในขณะที่สัดส่วนการใช้จ่ายเพิ่มมากสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจากผู้ถือบัตรวีซ่าจากญี่ปุ่น (เพิ่มขึ้น 129%) และบราซิล (เพิ่มขึ้น 33%)  
  • 78% ของการชำระเงินดิจิทัลจากบัตรที่มาจากต่างประเทศในกรุงปารีสเป็นการแตะเพื่อจ่าย (คอนแทคเลส) โดยเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ยอดจองเที่ยวบินไปกรุงปารีสก่อนโอลิมปิกเริ่ม สูงขึ้น 39% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566[2] 
  • จำนวนนักเดินทางไปยังกรุงปารีสที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี เพิ่มขึ้นถึง 120% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน[3]
  • จำนวนนักเดินทางต่างชาติไปยังกรุงปารีสที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากสหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้น 64%) ตามด้วยนักเดินทางจากเยอรมนี (เพิ่มขึ้น 61%) และสเปน (เพิ่มขึ้น 27%)
  • การใช้จ่ายยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเมืองต่างๆ ที่มีจัดการแข่งขันกีฬานอกกรุงปารีส ได้แก่ แซ็งเตเตียน (Saint-Etienne) เพิ่มขึ้น 214%, ลีล (Lille) เพิ่มขึ้น 100%, และมาร์เซย์ (Marseille) เพิ่มขึ้น 38%

 

ชาล็อต ฮ็อกก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวีซ่า ประจำยุโรป กล่าวว่า “ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาร่วม 40 ปี และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ ที่ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 เราทราบดีถึงผลบวกจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศเจ้าภาพ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าประสงค์ของวีซ่าที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายสำหรับทุกคนในทุกที่ทั่วโลก

ที่สำคัญยิ่งกว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ธุรกิจรายย่อยได้รับอานิสงส์จากการที่ประเทศของเขาเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาระดับโลก โดยตลอดสี่ปีที่ผ่านมาวีซ่าได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นกว่า 13 ล้านรายทั่วยุโรปให้เข้าถึงระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล

ในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีการชำระเงินอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก เกมส์ วีซ่าได้ทำงานร่วมกับคณะผู้จัดงานตลอดช่วงสามปีที่ผ่านมา ในการออกแบบและสร้างเครือข่ายการชำระเงินที่เหมาะสำหรับกรุงปารีสและเมืองต่างๆ ที่จัดการแข่งขัน และรองรับการชำระเงินแบบคอนแทคเลสของวีซ่าในกว่า 3,500 จุดขายที่กระจายอยู่ทั่วสนามจัดการแข่งขันโอลิมปิกทั้ง 32 แห่ง และของงานพาราลิมปิกอีก 16 แห่ง

วีซ่า เปิดตัวแอป Visa Go เพื่อเชื่อมต่อกับผู้เข้าชมการแข่งขันและนักท่องเที่ยวกับธุรกิจท้องถิ่นในช่วงการจัดการแข่งขัน โดยผู้มาเยือนสามารถดาวน์โหลดแอป Visa Go ได้ที่ https://go.paris.visa.com/home

[1]ตัวเลขเปรียบเทียบระหว่างสุดสัปดาห์วันที่ 28/29/30 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 26/27/28 กรกฎาคม 2567

[2] ตัวเลขรวมถึงเที่ยวบินไปกรุงปารีส ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 (เทียบกับปีก่อน) และอย่างน้อย 45 วันก่อนการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์

[3]ผู้ถือบัตรวีซ่าของสหรัฐอเมริกา

Visitors: 7,892,459