พาณิชย์หารือร่วมพันธมิตร รัฐ เอกชน กำหนดแนวทางการส่งเสริม การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทย

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ จัดประชุมรับฟังความเห็นแผนปฏิบัติการเรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ  พ.ศ. 2568 – 2570 เพื่อหารือและรับฟังความเห็นต่อประเด็นและแนวทางในการวางแผนพัฒนาการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของไทย จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบ
5 ประเด็นหลักของแนวทางการพัฒนาการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมไทย

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนปฏิบัติการเรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ  พ.ศ. 2568 – 2570  โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมรับฟังความเห็น ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เกี่ยวกับภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจพื้นฐานและมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ GDP ภาคการเกษตรจะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 8.6 ของ GDP ประเทศ แต่พื้นที่ทำการเกษตรในประเทศกลับมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 46.06 ของพื้นที่ทั้งประเทศ มีประชากรภาคเกษตรถึงร้อยละ 44.81ของประชากรทั้งหมด และมีแรงงานภาคเกษตรถึงร้อยละ 48.75 ของแรงงานทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าภาคเกษตรมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก

การจัดทำร่างแผนปฏิบัติการเรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทยอย่างเป็นระบบ เป็นแนวทางให้ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการดำเนินงานร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรของไทย โดยคาดหวังว่า
ร่างแผนปฏิบัติการฉบับนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยที่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน กฎระเบียบการค้า และแนวโน้มใหม่ ๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล ที่จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของไทย

ที่ประชุมได้ร่วมกันหารือกันอย่างกว้างขวางใน 5 ประเด็นการพัฒนาสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่(1) การส่งเสริมการจัดการปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน โดยการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต ส่งเสริมธุรกิจบริการด้านการเกษตรตลอดห่วงโซ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ผลักดันการจัดตั้งศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าเกษตรอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรในระดับท้องถิ่น (2) การส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาทักษะผู้ประกอบการสินค้าเกษตร โดยการพัฒนาความรู้และทักษะของเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจการเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจในการต่อรอง และส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อมูลของภาครัฐ(3) การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและการค้าสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรแปรรูปและเกษตรมูลค่าสูง ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าเกษตรไทย ส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศให้การพัฒนาประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรให้มีสินค้าและคู่ค้าที่หลากหลาย (4) การส่งเสริมระบบตลาดสินค้าเกษตรเพื่อรักษาเสถียรภาพการค้าสินค้าเกษตร ส่งเสริมกลไกตลาดที่เป็นธรรม พัฒนาและเพิ่มช่องทางการตลาด และ ยกระดับตลาดสินค้าเกษตรที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) และ (5) การอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยการสนับสนุนการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตร แก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าสินค้าเกษตร และยกระดับการให้บริการประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้าเกษตร

ผอ.สนค. กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากรับฟังความคิดเห็นจนครบถ้วนแล้ว สนค. จะนำแผนดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนต่อไป เพื่อให้ไทยมีแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติเป็นเข็มทิศในการกำหนดทิศทางการการค้าของประเทศ รวมทั้งมีแนวทางให้ภาคส่วนต่าง ๆ ดำเนินงานร่วมกัน อันจะช่วยเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า และเสริมแกร่งเศรษฐกิจไทยให้เติบอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

Visitors: 7,908,833