อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. อยู่ที่ 0.83% ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยจากราคาอาหารและผลไม้สด
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค. อยู่ที่ 0.83%YoY เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับเดือนก่อนที่ 0.62%YoY จากราคาหมวดอาหารสดที่ขยายตัว 1.10%YoY ตามราคาผลไม้สดที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.52%YoY เพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม มีราคาสินค้าบางรายการหดตัว ได้แก่ ของใช้ส่วนบุคคลซึ่งปรับลดลงตามการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ และราคาหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าที่หดตัวต่อเนื่อง
- Krungthai COMPASS ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1% ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของกระทรวงพาณิชย์ที่ปรับลดลงมาสู่ระดับ 49.7 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 52.3 ในเดือน มิ.ย. ส่วนหนึ่งจากความกังวลของประชาชนต่อภาระค่าครองชีพ ค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค. อยู่ที่ 0.83% ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยจากราคาอาหาร และผลไม้ที่ปรับเพิ่มขึ้น
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค. ขยายตัว 0.83%YoY เติบโตในอัตราที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 0.62%YoYและสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.7% [1]โดยราคาหมวดอาหารสดขยายตัว 1.10%YoY จากเดือนก่อนที่ 0.19%YoY ตามราคาผลไม้สดที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียวที่ขยายตัว ขณะที่ราคาหมวดพลังงานขยายตัว 1.78%YoY ตามราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.52%YoY จากเดือนก่อนที่ 0.36%YoY ตามการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามมีราคาสินค้าบางรายการหดตัว ได้แก่ ของใช้ส่วนบุคคลซึ่งปรับลดลงตามการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ และราคาหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าที่หดตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 7 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.11%YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.42%YoY
Implication:
- KrungthaiCOMPASS ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง สะท้อนจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าเดือน ก.ค. 2567 อัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.83%YoY แต่เป็นอัตราที่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1% โดยมีสินค้าบางรายการที่ยังหดตัว ได้แก่ เสื้อผ้า และค่าของใช้ส่วนตัว เป็นต้น ขณะที่ระยะข้างหน้า แม้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นและเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 4 แต่เกิดจากผลของฐานราคาพลังงานทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันขายปลีกที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยกระทรวงพาณิชย์ล่าสุดปรับลดจากระดับ 52.3 ในเดือน มิ.ย. ลงสู่ 49.7 ในเดือน ก.ค. ซึ่งถือเป็นระดับไม่เชื่อมั่นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน นับตั้งแต่เมื่อเดือน ธ.ค. 2565 ส่วนหนึ่งจากความกังวลของประชาชนต่อปัญหาค่าครองชีพ ค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังขาดแรงผลักดันด้านอุปสงค์ ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีของไทยในระยะข้างหน้าจะขยายตัวได้อย่างจำกัด
