ธอส. เผยมีลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายได้รับความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัยรวมจำนวนกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือรวม 2,200 ล้านบาท
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยยอดให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวมแล้วกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือรวม 2,200 ล้านบาท ยืนยันพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการฟื้นฟูและช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดทำ“โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจาก
สาธารณภัย” สำหรับลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ จำนวน 2 มาตรการ นำโดยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0%นาน 6 เดือนแรก และ“มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567” จำนวน 5 มาตรการ สำหรับลูกค้า NPL และลูกค้าที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายที่ต้องได้รับสินไหมชดเชยเร่งด่วน โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว ได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนชาวภาคเหนือที่ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งล่าสุด ธอส. ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าแล้ว รวมจำนวนกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือรวม 2,200 ล้านบาทโดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าได้รับสินไหมทดแทน ภายใต้มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567แล้วกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินไหมทดแทนที่ลูกค้าได้รับรวมกว่า 157 ล้านบาท แบ่งเป็น สินไหมให้แก่ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 2,300ราย วงเงินสินไหม 62ล้านบาท และสินไหมให้แก่ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงรายจำนวน 1,600 ราย วงเงินสินไหม 59 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ธอส. ยังคงเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการฟื้นฟูและช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยจำนวน 2 มาตรการ ประกอบด้วย
- สินเชื่อสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่: พื้นที่จังหวัดเชียงราย กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือกู้เพื่อปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม อัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1–6 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด, อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 7–24เท่ากับ 2.00% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (3.24% ต่อปี), ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (4.14% ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี, ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR(อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.545% ต่อปี) โดยได้รับวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาท เท่านั้น พิเศษ! ฟรีค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักประกัน (1,900–2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง
2. สำหรับลูกค้าปัจจุบัน: ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี ได้รับอัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1–3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด และเดือนที่ 4–12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน โดยเมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไปโดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ
มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567 จำนวน 5มาตรการ ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลา
ประนอมหนี้ ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีโดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้นเดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาทและเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 5 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (FastTrack) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์) โดยลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการที่ 1-4 สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และมาตรการที่ 5 ติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ GHBankCallCenter โทร 0-2645-9000หรือ FacebookFanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application:GHBALLGEN และ www.ghbank.co.th