กรุงศรี จัดงาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2024 ปูทางธุรกิจสู่ความสำเร็จในอาเซียน
20 พฤศจิกายน 2567) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน))
ยืนหยัดเดินหน้าสู่การเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ร่วมกับ
MUFG จัดงาน “Krungsri-MUFG Business Matching
Fair 2024” งานเจรจาจับคู่ทางธุรกิจแห่งปี พบปะเครือข่ายพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่พร้อมสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจผ่านการขยายตลาดในห้าประเทศ
ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นายเคนอิจิ ยามาโตะ
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า “งาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair
2024
เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของกรุงศรี และ MUFG ที่ต้องการส่งเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างเต็มประสิทธิภาพแก่ผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทย
ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 ซึ่งนอกจากจำนวนลูกค้าและประเภทอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมงานมากขึ้นแล้ว
จำนวนผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
และด้วยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่าง กรุงศรี และMUFG งานในวันนี้จึงประสบความสำเร็จตามพันธกิจ โดยเราสามารถจับคู่ธุรกิจให้ได้กว่า
200 คู่”
นายยู ซาโต กรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าฝ่ายให้คำปรึกษากลยุทธ์ทางการเงิน
ธนาคาร MUFG กล่าวว่า “งานจับคู่ทางธุรกิจภายใต้ความร่วมมือของกรุงศรี
และ MUFG จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2556 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการจัดงานในปีนี้ นับเป็นปีแรกที่ MUFG ได้เชิญลูกค้าจากธนาคารพันธมิตรทั้งหมดมาร่วมงานด้วย
ทั้งนี้ เรามุ่งหวังที่จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศในการขยายธุรกิจ
โดยอาศัยความรู้และเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่งของ MUFG”
งานเจรจาจับคู่ธุรกิจ Krugsri-MUFG
Business Matching Fair 2024 จัดขึ้นต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ
นอกจากบริการทางการเงินที่กรุงศรีสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเดินหน้าสร้างการเติบโตแล้ว
ยังมีการนำองค์ความรู้และเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG มาต่อยอดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอีกด้วย
โดยในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก ประกอบด้วยบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 50 บริษัท
จากประเทศไทยกว่า 60 บริษัท และจากประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนอีกมากมาย
ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจต่าง ๆ อาทิ อาหาร
เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว เครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเชนร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) แล้ว กรุงศรียังมีทีมที่ปรึกษาทางธุรกิจ
Krungsri ASEAN LINK ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจสู่อาเซียนอีกด้วย
โดยคาดว่าจะช่วยให้เกิดการต่อยอดในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ
ซึ่งจะเป็นการปูทางสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคต่อไปในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง
“ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันจนงานวันนี้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึง พันธกิจของเราในการเชื่อมโยงบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทไทยเข้าด้วยกัน
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางธุรกิจแก่ลูกค้าของเราที่เป็นผู้ประกอบการในทุกระดับให้เติบโต
และมีแรงขับเคลื่อนเชิงบวกเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง
ผ่านการใช้งานนวัตกรรมทางการเงินที่เหมาะสม และตั้งอยู่บนแนวทาง ESG ที่กรุงศรี และ MUFG ยึดมั่น
อันเป็นรากฐานที่ดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้มีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนสืบไป
และเราจะเดินหน้าพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าแก่ธุรกิจของทุกท่านต่อไป” นายยามาโตะ กล่าวปิดท้าย