ยูโอบี เผยมุมมอง ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ส่งผลอย่างไรต่อพอร์ตการลงทุน
21 พฤศจิกายน 2567 –
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุน
หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์และพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของสหรัฐฯ
ตลาดการเงินและพอร์ตการลงทุนอาจเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการประกาศแนวนโยบายของสหรัฐฯ
โดยปฏิกิริยาของตลาดในเบื้องต้นหลังการเลือกตั้งมีแนวโน้มเป็นบวก
ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
และมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงในระยะสั้น เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาษี
ทั้งนี้ หากรัฐสภาใหม่ยังคงนำโดยพรรครีพับลิกัน
ความไม่แน่นอนด้านนโยบายและการกำกับดูแลในอนาคตอาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาด
ผลกระทบของการเลือกตั้งครั้งนี้ต่อตลาดและการลงทุน
- แนวโน้มภาพรวมของตลาด: แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งทำให้ตลาดตอบสนองในเชิงบวก
นักลงทุนยังคงควรเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการค้า อัตราเงินเฟ้อ
และอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น คาดว่านโยบายของทรัมป์จะยังคงเน้นการลดภาษีและการลดการกำกับดูแล
ซึ่งอาจกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่อาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดในระยะสั้นได้
- หุ้นสหรัฐฯ: ภายใต้กลยุทธ์
“อเมริกาต้องมาก่อน (America First)” นโยบายต่างประเทศของทรัมป์คาดว่าจะช่วยสนับสนุนบางภาคส่วน
เช่น การเงิน อุตสาหกรรม การผลิต และพลังงาน อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอาจได้รับผลกระทบ
หากมีการยกเลิกกฎหมายลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act)
ในขณะเดียวกัน ภาษีที่สูงขึ้นและนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดขึ้นอาจกระทบต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
- ตราสารหนี้และอัตราดอกเบี้ย: นโยบายการปรับลดภาษีและแนวโน้มการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นอาจกดดันต่อการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้น
ซึ่งอาจส่งผลทำให้กระทรวงการคลังต้องออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าในระยะสั้นพันธบัตรอาจเผชิญแรงกดดันจากการขาย แต่ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพมีอัตราผลตอบแทน(yield) ที่ยังคงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการลดอัตราดอกเบี้ย
- ผลกระทบระหว่างประเทศ: เศรษฐกิจจีนอาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีที่ทรัมป์เสนอ
ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน
หุ้นในอาเซียนและเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) อาจได้รับประโยชน์จากการย้ายห่วงโซ่อุปทาน
หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในรัฐบาลใหม่
- เน้นกระจายการลงทุนและสร้างความยืดหยุ่น:
นักลงทุนควรมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายเพื่อบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของทรัมป์
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและผลประกอบการที่มั่นคงสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกในตลาดหุ้น
แต่นักลงทุนควรมีความยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- พิจารณาสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
(defensive
assets): ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูงและศักยภาพในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอเหมาะสำหรับพอร์ตการลงทุนที่เน้นความมั่นคง
นอกจากนี้ หุ้นในอาเซียนและเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ที่มีระดับมูลค่าและอัตราเงินปันผลที่น่าสนใจยังคงเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีในสภาวะการเปลี่ยนแปลงการค้าระหว่างประเทศ
ธนาคารยูโอบี
ประเทศไทยขอแนะนำนักลงทุนให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายสหรัฐฯ
และสภาวะเศรษฐกิจ
เพื่อเพิ่มศักยภาพพอร์ตการลงทุนในการบริหารความเสี่ยงและคว้าโอกาสในการลงทุน