กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2568 จำนวน 7.53 พันล้านบาท เน้นการเติบโตสินเชื่อที่มีคุณภาพ พร้อมบริหารต้นทุนเสริมประสิทธิภาพเต็มกำลัง
อัพเดทล่าสุด: 19 เม.ย. 2025
75 ผู้เข้าชม
กรุงเทพฯ (18 เมษายน 2568) กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิจำนวน 7,533 ล้านบาท เติบโต 20.0% จากไตรมาสที่สี่ของปี 2567 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นความสำคัญของการเติบโตสินเชื่อที่มีคุณภาพ ในภาคธุรกิจที่มีการฟื้นตัว พร้อมบริหารต้นทุนทางการเงินและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างเต็มศักยภาพ
เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.7% ท่ามกลางความท้าทายและปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งสินเชื่อเพื่อรายย่อยปรับตัวลดลงภายใต้บริบทที่ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น โดยกรุงศรียังคงให้ความสำคัญในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร ด้วยมาตรการสนับสนุนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ ท้าทายผ่านมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการ คุณสู้ เราช่วย
สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2568:
เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.7% ท่ามกลางความท้าทายและปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งสินเชื่อเพื่อรายย่อยปรับตัวลดลงภายใต้บริบทที่ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น โดยกรุงศรียังคงให้ความสำคัญในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร ด้วยมาตรการสนับสนุนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ ท้าทายผ่านมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการ คุณสู้ เราช่วย
สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2568:
- กำไรสุทธิ จำนวน 7,533 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 20.0% หรือจำนวน 1,257 ล้านบาท จากไตรมาสที่สี่ของปี 2567 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากยุทธศาสตร์ของกรุงศรีในปี 2568 ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงนโยบายการบริหารต้นทุนทางการเงินและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ กำไรสุทธิทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- เงินให้สินเชื่อรวม ทรงตัวจากสิ้นเดือนธันวาคม 2567 ท่ามกลางความท้าทายและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จากการดำเนินงานเชิงรุกที่มุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.7% หรือจำนวน 30,904 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งสินเชื่อเพื่อรายย่อยปรับตัวลดลง 2.4% และ 2.5% ตามลำดับ
- เงินรับฝาก เพิ่มขึ้นที่ 0.9% หรือจำนวน 16,753 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2567 จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนเงินรับฝากที่มีต้นทุนต่ำ ประกอบด้วยเงินรับฝากประจำที่มีอายุน้อยกว่าหกเดือนและเงินรับฝากออมทรัพย์ สุทธิด้วยการลดลงของเงินรับฝากประจำที่ต้นทุนสูงกว่าและระยะเวลานานกว่า สะท้อนการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินเชิงรุกและรอบคอบระมัดระวัง
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.1% เพิ่มขึ้น 7 เบสิสพอยท์จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากต้นทุนเงินรับฝากที่ลดลง สะท้อนการบริหารต้นทุนทางการเงินเชิงรุก ส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างและระยะเวลาของเงินรับฝากอย่างมีประสิทธิภาพ
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 5.4% หรือ 607 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สูญรับคืน กําไรจากทรัพย์สินรอการขายและเงินปันผล
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับตัวดีขึ้นที่ 45.7% เทียบกับ 46.5% ในไตรมาสก่อนหน้า จากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินงานของธนาคาร
- อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ที่ 3.29% ขณะที่อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 211 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับ 234 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับ 124.5%
- อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 19.14% เทียบกับ 19.38% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ของธนาคารที่มุ่งเน้นการเติบโตตามเป้าหมายเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ท้าทายและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความต้องการสินเชื่อเพื่อการดำเนินงานและการลงทุน สะท้อนคุณภาพการเติบโตในภาคธุรกิจที่มีการฟื้นตัว
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อภาคการส่งออกและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ปัญหา
บทความที่เกี่ยวข้อง
18 เมษายน 2568 เครื่องดื่มเป๊ปซี่® โดย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสานต่อแคมเปญรักษ์โลก Waste Nothing - มันส์ แล้ว ทิ้ง โดยล่าสุดร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท เอสทูโอ แฟคทอรี่ จำกัด ชวนเหล่า Gen Z บิ๊กแฟนอีดีเอ็ม
18 เม.ย. 2025
ธนาคารกรุงไทย เติบโตตามยุทธศาสตร์อย่างยั่งยืน มีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 11,714 ล้านบาท จัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวัง รักษาระดับ Coverage Ratio ในระดับสูง รองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ เดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าแก้ไขปัญหาหนี้
19 เม.ย. 2025
คทีซีนำกลุ่มบริษัทฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ เผยไตรมาส 1/2568 ทำกำไรสุทธิ 1,861 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวอยู่ที่ 107,093 ล้านบาท ควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี
19 เม.ย. 2025