‘สิงห์ เอสเตท’ ขอบคุณนักลงทุน ปิดการขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ครบเต็มจำนวน 2,000 ล้านบาท มั่นใจในผลการดำเนินงานและการเติบโตในอนาคตตามแผน ทั้งกลุ่มโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ในเครือ
อัพเดทล่าสุด: 13 ม.ค. 2025
131 ผู้เข้าชม
กรุงเทพฯ 13 มกราคม 2568 - บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีต่อเนื่องจากการเสนอขายหุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี ซึ่งเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 7 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยปิดการขายรวมมูลค่าเสนอขายทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท ตามเป้าที่บริษัทฯ วางไว้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและไว้วางใจของนักลงทุนที่มีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
สำหรับหุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท ที่ได้เสนอขายในครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ระดับ BBB ซึ่งเป็นกลุ่ม ระดับลงทุน (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB+ แนวโน้ม Negative ซึ่งเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 7 - 9 มกราคม 2568 โดยบริษัทฯ สามารถปิดการขายหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดดังกล่าวด้วยมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท แสดงถึงการตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนต่อหุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถสะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ภายใต้ความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ไทยในปัจจุบัน
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ออกเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 จำนวน 2 ชุด อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.00% ต่อปี ระหว่างวันที่ 7 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการเสนอขายรวมจำนวน 2,000 ล้านบาท นั้น ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยมียอดจองซื้อหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดเต็มตามเป้าการเสนอขายของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อผลการดำเนินงาน รวมถึงโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่มั่นใจและไว้วางใจจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวของบริษัทฯ พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 4 แห่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ และช่องทางการเสนอขายที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้ง่ายขึ้น
ความสำเร็จในการเสนอขายครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อแบรนด์ สิงห์ เอสเตท อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และการเป็นผู้นำในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่ม Luxury ทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า รวมถึงธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์การขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการและบริการที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการประกอบธุรกิจที่สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างต่อเนื่องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน ที่ไว้วางใจเรามาโดยตลอด ประธานเจ้าหน้าที่ บมจ.สิงห์ เอสเตท กล่าว
สำหรับ สิงห์ เอสเตท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SET: SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 36 แห่ง ห้องพัก 4,290 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนารูปแบบโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในระดับ luxury segment ที่มีความอ่อนไหวจากภาวะตลาดในระดับต่ำ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ อาคารสำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน อันเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับหุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท ที่ได้เสนอขายในครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ระดับ BBB ซึ่งเป็นกลุ่ม ระดับลงทุน (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB+ แนวโน้ม Negative ซึ่งเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 7 - 9 มกราคม 2568 โดยบริษัทฯ สามารถปิดการขายหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดดังกล่าวด้วยมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท แสดงถึงการตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนต่อหุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถสะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ภายใต้ความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ไทยในปัจจุบัน
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ออกเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 จำนวน 2 ชุด อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.00% ต่อปี ระหว่างวันที่ 7 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการเสนอขายรวมจำนวน 2,000 ล้านบาท นั้น ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยมียอดจองซื้อหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดเต็มตามเป้าการเสนอขายของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อผลการดำเนินงาน รวมถึงโอกาสการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่มั่นใจและไว้วางใจจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวของบริษัทฯ พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 4 แห่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ และช่องทางการเสนอขายที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้ง่ายขึ้น
ความสำเร็จในการเสนอขายครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อแบรนด์ สิงห์ เอสเตท อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และการเป็นผู้นำในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่ม Luxury ทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า รวมถึงธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์การขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการและบริการที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการประกอบธุรกิจที่สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างต่อเนื่องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน ที่ไว้วางใจเรามาโดยตลอด ประธานเจ้าหน้าที่ บมจ.สิงห์ เอสเตท กล่าว
สำหรับ สิงห์ เอสเตท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SET: SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 36 แห่ง ห้องพัก 4,290 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนารูปแบบโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในระดับ luxury segment ที่มีความอ่อนไหวจากภาวะตลาดในระดับต่ำ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ อาคารสำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน อันเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ธ.ก.ส. ลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าเขา จังหวัดพังงา ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร (BAAC Agro-Tourism) เปิดประสบการณ์การทำผ้าบาติกจากเส้นใยธรรมชาติที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์
11 มี.ค. 2025
SC เปิดแผนแนวราบพร้อมลุยเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้อยู่ที่ 18,800 ล้านบาท จับตาไฮไลต์ 2 New Brand ตอกย้ำผู้นำบ้านหรูที่ 1 ในใจผู้บริโภค โชว์ความสำเร็จแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 คฤหาสน์หรู
11 มี.ค. 2025
วิริยะประกันภัย ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย มุ่งลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางไกล ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
11 มี.ค. 2025